เด็กติดเกม” ปัญหาสังคมที่แก้ไม่ได้ หรือยังไม่ได้แก้

“อาการติดเกม”
คือพฤติกรรมที่เป็นปัญหาของสังคมมานาน เราเรียกคนที่มีอาการเหล่านั้นว่า เด็กติดเกม ซึ่งนับตั้งแต่เกมออนไลน์ และออฟไลน์เข้ามาบุกตลาดเกมในบ้านเรา จนเกิดเป็นกระแสนิยม ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมามากมาย อย่างที่เราเห็นได้ในสื่อ ที่ยิ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งด้วยเทคโนโลยีของเกมสมัยใหม่ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กลุ่มเด็กติดเกมก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเช่นเดียวกัน

ขึ้นชื่อว่าเกมนั้น ไม่ว่าจะเป็นเกมออนไลน์ หรือออฟไลน์ ถ้าเด็กอยู่ใน “ภาวะติดเกม” แล้ว ก็ย่อมที่จะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กอย่างแน่นอน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ด้าน คือ

1. ด้านสุขภาพร่างกาย เด็กติดเกมจะมีนิสัยในการทานอาหารที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่นชอบอดอาหาร ทำให้สุขภาพทรุดโทรม ผอม ในบางรายของเด็กที่มีน้ำหนักมากจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ เพราะเนื่องจากเด็กขาดการออกกำลังกาย และเกมยังส่งผลกระทบกับเวลาในการนอนของเด็ก ทำให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านร่างกายที่ช้า ไม่สมวัย

2. ด้านพฤติกรรม เนื่องจากเนื้อหาในเกมที่แตกต่างกัน มีทั้งเหมาะสมกับเด็กหรือบางเกมนั้นมีเนื้อหาเฉพาะสำหรับผู้ใหญ่ ผู้ปกครองต้องคอยดูว่าเด็กกำลังเล่นเกมอะไรอยู่ เพราะถ้าเกมนั้นมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับวัยของเด็ก จะส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว โมโหร้าย ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากการเลียนแบบพฤติกรรมของเกมนั่นเอง

3. ด้านการเข้าสังคม เด็กที่เล่นเกมส่วนใหญ่ มักจะมีปัญหาในการเข้าสังคม เพราะเด็กจะเอาเวลาส่วนใหญ่ไปเล่นเกม ทำให้เด็กกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่มีสังคม ซ้ำยังส่งผลต่อการเรียน สมาธิสั้น ไม่ตั้งใจ สุดท้ายอาจส่งผลให้เด็กเรียนไม่จบ

แต่ ปัญหาเด็กติดเกมสามารถแก้ไขได้ โดยผู้ปกครองต้องเปิดใจว่า การเล่นเกมก็มีประโยชน์เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยพัฒนาศักยภาพต่าง ๆ ทั้งทางด้านไหวพริบ ตรรกะ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะทางด้านภาษา ซ้ำยังสามารถผลักดันให้กลายเป็นอาชีพในอนาคตได้ เพราะในยุคเทคโนโลยีที่เปิดกว้างนี้ อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเกมก็มีมากมาย แถมยังได้รับการยอมรับมากขึ้น และรายได้ก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็น นักพัฒนาเกมออนไลน์ โปรแกรมเมอร์ เกมครีเอทีฟ ยิ่งประเทศไทยได้มีการเปิดกว้างทางการลงทุน บรรดาบริษัทเกมและผู้ผลิตเกมในต่างประเทศต่างก็ทยอยกันเข้ามาเปิดบริษัทในประเทศไทยมากขึ้นตามไปด้วย

เพียงแค่ผู้ปกครองต้องเข้าใจและเอาใจใส่บุตรหลานให้มากขึ้น วิธีที่ดีก็คือการตั้งกฎกติกาก่อนเล่นเกมให้ชัดเจน อย่างเช่น กำหนดประเภทเกม, ระยะเวลาการเล่นที่ชัดเจน และต้องเอาจริงเอาจังกับกฎที่ตั้งไว้เสมอ ค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมติดเกม โดยการหากิจกรรมอื่นให้เด็กทำทดแทน ซึ่งผู้ปกครองก็ต้องมีความอดทนและคอยให้คำปรึกษาเด็กอย่างใกล้ชิดอยู่เสมอ แล้ว “เด็กติดเกม” จะไม่กลายเป็นปัญหาของสังคมอีกต่อไป